HOME

0 ความคิดเห็น




โปรเจค Kyani ที่ผมจะเปลี่ยนตัวเอง ฉีกกฏ แบบเดิมๆ ที่เคยเรียน เคยรู้
ที่ได้จากการปลูกฝังของระบบการเรียนจริง

จะต้องเป็นเจ้าของรถคันนี้ใน 2 ปีีก่อนที่จะเรียนจบ



พบกับสุดยอดแผนการจ่ายผลตอบแทน ของ Kyani

ปฎิวัติทุกรูปแบบการจ่ายผลตอบแทนในอดีตที่ไม่เปลี่ยนแปลงมานานกว่า 20 ปี

กลบจุดอ่อนของทุกแผนการตลาดในยุคปัจจุบัน


ในปี 2010 ระบบการทำงานผ่านอินเตอร์เน็ตจะถูกนำมาใช้กับทุกธุรกิจเกือบ 100% ในโลกใบนี้ ระบบการทำงานแบบเดิมๆจะหมดไป การโอนเงิน การซื้อสินค้า การทำงานจะผ่านอินเตอร์เนตทั้งหมด ถึงเวลา ที่คุณจะต้องเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้ตรงกับความเจริญของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป เพราะหลายๆ ปีที่ผ่านมามหาเศรษฐีของโลกในปัจจุบันมาจากอินเตอร์เนตเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีต้นทุนต่ำ แต่ได้ผลตอบรับดีที่สุดและลดเวลาในการทำงานของเราลง ตัวอย่างเว็บ ebey, amazon, google, yahoo,youtube ฯลฯ ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี สามารถทำเงินให้กับเจ้าของเว็บไซต์มากกว่าแสนล้าน ถึงเวลาที่เราต้องเปลี่ยนตัวเราให้ทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ด้วยการเริ่มต้นธุรกิจที่เป็นโลกของอินเตอร์เนตที่สมบูรณ์แบบกับเราระบบการทำงานออนไลน์เต็มรูปแบบ ซึ่งจะมีเครื่องมือต่างๆให้คุณนำไปใช้ในการทำงาน และมีระบบสอนงานที่เรียกว่า The One University มหาวิทยาลัยของการพัฒนาธุรกิจ

“ผู้ที่วิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตทางการเงินส่วนตัวของตนเองควรจะมองหาจุด หมายในชีวิตด้วยการสร้างเครือข่าย” โรเบิร์ต คิโยซากิ ผู้เขียนหนังสือพ่อรวยสอนลูก (Rich Dad, Poor Dad)นักเขียนซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีมากมายรวมทั้งริชาร์ด โพอี้ มาร์ค วิคเตอร์ แฮนเซน ไรอัน เทรซี่และโรเบิร์ต คิโยซากิ ล้วนกล่าวยกย่องคุณความดีของการตลาดแบบเครือข่าย สมาพันธ์การขายตรงก็คาดการณ์ล่วงหน้าว่า ภายในปี ค.ศ.2010 (พ.ศ. 2553) บริษัทการตลาดแบบเครือข่ายจะสร้างยอดธุรกิจได้มากกว่า 700 พันล้านดอลลาร์ บริษัทซึ่งเป็นที่รู้จักกันที่ติดอันดับ 500 บริษัทของนิตยสารฟอร์จูนก็นำเสนอผลิตภัณฑ์ของตนเองผ่านระบบเครือข่าย เช่น บอช&ลอมบ์ โคคา-โคล่า เจเนอรัล อิเล็กทริคส์ โมโตโรล่า เอที&ที เอ็มซีไอ ซีรอกซ์ และอื่นๆ อีกมากมาย เป็นที่เห็นอย่างเด่นชัดว่า การสร้างเครือข่ายคือแนวโน้มแห่งอนาคต

ทว่าเหตุใดการตลาดแบบเครือข่ายจึงเป็นแนวคิดที่ดี? คำตอบนั้นง่ายมาก ด้วยการสร้างธุรกิจที่มีพื้นฐานจากการสร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อง คุณจึงกำลังสร้างรายได้เพิ่มเติมจากที่มีอยู่เดิม นั่นหมายความว่า แม้ว่าคุณจะไม่ไปทำงานในวันที่ควรจะทำ ก็ยังมีผู้คนในองค์กรของคุณกำลังทำงานและสร้างยอดขายอยู่ การตลาดแบบเครือข่ายสามารถทำให้คุณกลายเป็นเจ้านายของตนเองได้ คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าคุณจะทำงานเมื่อไรและอย่างไร คุณสามารถจัดตั้งธุรกิจของคุณเองในวิถีทางที่เหมาะสำหรับคุณ คุณมีอิสรภาพที่จะทำสิ่งใดก็ได้ตามวิถีทางของคุณเอง และยังคงทำงานด้วยความร่วมมือร่วมใจกับผู้คนในองค์กรของคุณ

Kyani ก่อตั้งขึ้นจากพื้นฐาน ของการช่วยเหลือกัน โดยเน้นการพัฒนาองกรณืมากกว่าการออกเดินขายผลิตภัณฑ์ และแผนการตลาดที่เน้นให้ช่วยเหลือกัน จะหล่อหลวมให้คุณเป็นมีน้ำใจ ช่วยเหลือกัน


แผนการจ่ายผลตอบแทนของ Kyani ในการสร้างรายได้

ความมีอิสระทางการเงิน อิสรภาพด้านเวลา มีทางเลือกอย่างสมบูรณ์ว่าคุณจะใช้เวลาในแต่ละวันของชีวิตของคุณอย่างไร... ตั้งเป้าหมายแล้วลงมือทำให้ได้ตามเป้าหมาย ก็สามารถได้สร้างรายได้อย่างงดงาม ด้วยโครงสร้างแผนธุรกิจของเรา คุณจะได้รับการส่งเสริมให้ทำงานร่วมกับทีมของคุณแทนที่จะแข่งขันกับพวกเขา Kyani จ่ายผลตอบแทนอย่างไร้ขีดจำกัด ดังนั้น คุณจึงรู้สึกมีอิสระที่จะสปอนเซอร์ผู้คนที่จุดไหนก็ได้ในองค์กรของคุณซึ่งจะเอื้อประโยชน์มากขึ้นทั้งต่อพวกเขา

และตัวคุณเอง ในแผนการจ่ายผลตอบแทนที่ปฏิวัติวงการนี้ Kyani นำเสนอหกวิธีในการจ่ายผลตอบแทนในแต่ละเดือน แต่ละอาทิตย์



  • Kyani เป็นธุรกิจ E-Commerce จากบริษัทยักษ์ใหญ่ Kyani ของอเมริกาซึ่่งดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2005 ขยายธุรกิจใน USA, Canada, Peuto Rico, China, Hongkongเพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยในวันที่ 19 มีนาคมนี้ Kyani จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2552 นี้
  • ระบบการทำงานออนไลน์เต็มรูปแบบของ Kyani ซึ่งจะมีเครื่องมือต่างๆให้คุณนำไปใช้ในการทำงาน และมีระบบสอนงานในรูปแบบ Kyani VDO Presentation และ Kyani VDO Training เรียนรู้ระบบ 90 วัน เพื่อความสำเร็จในชีวิตคุณ!!!














-------------------------------------------------------------------------------------------



SEE U AT THE TOP

------------------------------------------------------------------------------------------





Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani

Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani Kyani

7 หลักการเลือกธุรกิจเครือข่าย

0 ความคิดเห็น
หลักในการเลือกว่าบริษัทไหนที่เราควรจะร่วมทำด้วย บริษัทนั้นจะต้องผ่านเกณฑ์การพิจาราณาต่างๆ ดังที่ Mr.Peter Ducker ปรมาจารย์ การตลาดของโลก ได้เขียนถึงหลักการเลือกธุรกิจ MLM ไว้ว่า ธุรกิจเครือข่ายที่ดี ที่ควรเข้าร่วมด้วย จะต้องมีคุณสมบัติพร้อมครบ 7 อย่างดังนี้

1. บริษัท (Company) บริษัทต้องมีความมั่นคง แข็งแรง ฐานะทางการเงินต้องมั่นคง
2. ผลิตภัณฑ์ (Products) ผลิตภัณฑ์ต้องมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยม มีเอกลักษณ์จุดขายเหนือคู่แข่ง
3. แผนธุรกิจ (Plan) แผนรายให้ผลตอบแทนอย่างยุติธรรม และมีรายได้ที่คุ้มค่า มั่งคั่ง
4. แนวโน้ม (Trends) สินค้ามีแนวโน้มเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในปัจจุบันและอนาคต
5. จังหวะเวลา (Timing) ช่วงเวลาต้องอยู่ในช่วงที่เริ่มต้นไม่นาน และอยู่ในช่วงกำลังเจริญเติบโตอย่างยิ่งยวด
6. ทีมงาน (Team) ผู้นำมีีความเป็นมืออาชีพ จริงใจ และช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จได้จริงๆ
7. ทีมผู้บริหาร (Management) ผู้บริหารมืออาชีพ วิสัยทัศน์ก้าวไกล มีประสบการณ์มายาวนานในด้านธุรกิจเครือข่าย

ทำการตลาดแบบดึงดูด

0 ความคิดเห็น

การทำการตลาดแบบดึงดูดเริ่มจากทำให้คนรู้จักเราก่อน หลังจากนั้นเริ่มสร้างความสัมพันธ์ และสุดท้ายท่านก็เริ่มโปรโมตความเป็นมืออาชีพของท่านให้คนเชื่อมั่นในท่าน

การ ทำให้คนรู้จักเป็นสิ่งแรก ท่านต้องรู้ว่าสิ่งที่จะเวิร์คกับการตลาดแบบดึงดูดคือ การทำการตลาดกับระบบสังคมออนไลน์ และใช้ระบบที่สนับสนุนสังคมออนไลน์ social network ที่ท่านต้องเลือกว่าจะใช้เครื่องมืออะไรบ้าง ทีมีในเน็ตอย่างเช่น youtube, facebook, hi5, myspace หรือวิธีอื่นๆที่ท่านถนัด แม้กระทั่งกระทู้ก็ยังได้เลย

ขั้น ต่อมา เป็นการสร้างความสัมพันธ์ เพราะคนจะให้ความเชื่อมั่นและเข้ามาสนใจท่าน เมื่อเขามองว่าท่านเป็นคนน่าคบ มีบางอย่างคล้ายๆกัน หรือท่านให้ความใส่ใจในตัวเขาเป็นอันมากท่านต้องทุ่มเวลาเป็นอันมากในการ สร้างความสัมพันธ์กับคน ท่านต้องกล้าโชว์ความเป็นตัวท่าน รูปภาพของท่านคือสิ่งที่ขาดไม่ได้ และอย่าทำการอันใดที่เขารู้สึกอึดอัด เพราะสุดท้ายเราจะโดนลบจากระบบของเขาทันที

บางท่านใช้ social network ในการโฆษณาขายของ ขายธุรกิจทันทีที่เริ่ม สิ่งที่เกิดขึ้นสุดท้ายคือท่านจะไม่มีเพื่อนในเครือข่ายเลยเพราะท่านจะโดน เขี่ยจากระบบเขาทันที คนไม่ชอบโฆษณาขยะเหมือนทีผมกล่าวแต่ต้น

ขั้น ต่อมาเป็นการสร้างความเชื่อมั่นได้นั่นคือ การที่เริ่มโปรโมตความเป็นมืออาชีพของตน แต่ไม่ใช่โปรโมตธุรกิจนะครับ เราต้องโปรโมตสิ่งที่จะแก้ปัญหาให้เขา โปรโมตสิ่งต่างๆที่มีในระบบ ความรู้ความสามารถของเราแบบไม่โอ้อวด เอาให้พอเหมาะ ถ้าเป็นไปได้แสดงหลักฐานด้วยยิ่งดี

ขั้นตอนอาจจะดูง่ายๆแต่ต้องใช้เวลา และความใส่ใจเป็นอันมากในขั้นตอนการสร้างความสัมพันธ์ แต่สุดท้ายผลลัพธ์อันมหาศาลจะเกิดขึ้นแน่นอน

การ เป็นมนุษย์แม่เหล็กอีกอย่างคือ ถ้าท่านทำเครือข่ายอยู่แล้ว แน่นอนท่านมีไซด์ไลน์ที่ทำธุรกิจเดียวกับท่าน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีด้วยกันไว้ครับ เพราะไม่แน่อนาคตคือสิ่งไม่แน่นอนท่านอาจจะได้เขามาร่วมเครือข่ายแบบไม่ต้อง เปลืองแรง และคนเหล่านั้นเขามีทักษะที่เหนือกว่าหลายคนที่ไม่เคยทำมาก่อนด้วยซ้ำไป

อ่าน ดู ขำๆ

0 ความคิดเห็น
1.เธอกำลังอ่านข้อความของฉัน

2.เธออ่านข้อ1จบไปแว้ว

3.เธอกะลังคิดว่ามันฮายังงัย

4.เหมือนเธอจะโดนหลอก

5.เธอเริ่มคิดว่าจาด่าฉันยั! งไง

6.เธอเครียด

7.เธอเครียดมากๆ

9.เธอเครียดสุดๆ

10.เธอเครียดจนเธอลืมดูว่าไม่มีข้อ8

11.เธอหันไปดูว่าไม่มีจิงป่าว

12.เธอเลื่อนกลับมาอีกแล้ว เหอๆ

13.เธอเริ่มเลื่อนลงแล้ว

14.เธอเลื่อนลงอย่างเร็ว อย่างเร็ว

15.และก็ เร็ว เร็ว......

16.เร็วมาก ๆ

17.เร็วจนไม่รู้ว่าข้อ 13 นั้นมี 2 ข้อ....

18. แล้วเธอก็ย้อนกลับไปดูอีกครั้ง

19.เธอโดนหลอกเต็มๆ ข้อ 13 มีอยู่ข้อเดียว

20.เธอส่ายหัวไปมา...คิดในใจว่า มันเอาข้อความบ้าอะไรมาให้อ่านเนี่ย.....

21.ไม่มีสาระอะไรเลย...

22.แต่ก็ยังทำให้เธออ่านมันมาถึงตรงนี้....

23.นั่นแน่!!เธอแอบยิ้มยิ้ม... 555

ทำไมต้อง MLM ?

0 ความคิดเห็น
mlm ย่อมาจาก muti level maketting mlm คือ ระบบ การวางแผนการตลาด การค้ารูปแบบหนึ่ง ซึ่งส่วนมากมองข้ามไป เป็นวิวัฒนาการ ของการคิด การค้า แบบให้ผลตอบแทน หลายชั้น หลายระดับ ทั่วไปมักมองว่าเป็นลูกโซ่ หรือปิรามิด ถ้าลองศึกษาลงไปจะเห็นว่าเป็นระบบที่ดี ตัวอย่างการมอง อยู่ว่าเรามองอย่างไร
  • หลายคนมองว่า คนมาก่อนได้เปรียบ คนอยู่บนเอาเปรียบ ท่านลองมองระบบงานปัจจุบันครับงานราชการ เป็นปิรามิดที่ชัดเจนที่สุด คือ มี ระดับชั้น ของ ข้าราชการ เช่นมี ซี 1,2,3,4..... อย่างนี้เป็นปิรามิด ไหมครับ มี ซี 1 จำนวนมาก ซี 2 ก็มีน้องลง จนถึง ซี 11 มีกี่คน
  • บริษัททั่วไป ถ้าเราเข้าไปเช่น เริ่มจาก พนักงานขาย การจะได้เป็น รองหัวหน้าหน่วย ต้องใช้เวลา และมีรองหัวหน้าหน่วยกี่คน หัวหน้าหน่วยล่ะ อาจมี ซุปเปอร์ไวเซอร์ แล้วมีได้กี่คน และต้องการเป็นผู้จัดการล่ะ มีได้กี่คน

นี่ แค่เขียนถึงระบบโดยกว้างๆนะครับ ถ้าเจอะลึกลงไป ยังมีสิ่งที่เราอาจขำไม่ออก เช่น วันนี้เราได้งานเป็น พนักงานขาย พร้อมด้วยเพื่อนรักเราคนหนึ่ง ที่พร้อมตายแทนเราได้ ผ่านไป5 ปี เราและเพื่อนต่างขยันขันแข็งทำงานได้ดีมาก บริษัทเปิดโอกาส ให้เราเลือนตำแหน่ง เป็นผู้จักการ แต่ผู้จักการมีได้กี่คนครับ ส่วนมากหนึ่งเดียว ท่านคิดอย่างไร

  • ให้เพื่อนเป็นไปก่อน แต่ผลงานเราดีกว่าเพื่อนอยู่นิดหน่อย
  • เราเป็นเองดีกว่า (แล้วเพื่อนท่านล่ะคิดอย่างไร)

อย่าพึ่งดีใจครับท่าน ปรากฎว่า หลายชายเจ้าของ จบโท มาจากนอกด้านการตลาด ได้เป็นครับ

นี่แค่ตัวอย่างนะครับ

MLM ให้อะไร ใช่เรื่องแรกต้องควรรู้ก่อนว่าให้อะไร ใช่ไหมครับ จะได้ใช้เป็นส่วนประกอบในการตัดสินใจ จากการศึกษาถึงระบบ mlm สิ่งได้พบจุดเด่น ของระบบนี้ คือ
ความเท่าเทียม หรือ โอกาส การสร้างธรุกิจ(รายได้)
การไม่จำกัดรายได้
ไม่จำกัดเวลา

ข้อเสีย คนไม่เข้าใจแล้วนำไปคิดเอง โดยไม่ศึกษา และนำไปถ่ายทอดแบบไม่ถูกต้อง

mlm เหมาะกับใคร เรื่องนี้บอกได้อย่างเดียวว่า เหมาะสำหรับทุกท่าน การสร้างธุรกิจ mlm คือการสร้างเครื่องข่าย ใครสร้างได้มาก ย่อมมีรายได้มาก ในความเห็นส่วนตัว ผมว่าน่าที่สร้าง ธรุกิจ mlm ไว้สำรอง ถึงท่านจะทำอะไรอยู่ก็ตาม เพราะ mlm ไม่มีต้นทุนเพิ่ม มีแต่ รายได้เพิ่ม

สิ่งที่ทำให้ล้มเหลวอันดับ 1

0 ความคิดเห็น
อันดับ 1 นั้นก็คือ ความกลัว

ไม่ มีใครที่สามารถเอาชนะความกลัวได้ครับ ไม่ว่าการที่คุณจะต้องไปคุยเรื่องงานกับเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง การโทรศัพท์หาผู้มุ่งหวัง การคุยกับคนที่มีความสามารถมากกว่า การตามงานสำหรับคนที่มีความสนใจ หรือแม้กระทั่ง การรับผิดชอบในตัวดาวน์ไลน์ของคุณ และนั่นก็เลยทำให้คุณเองต้องล้มเหลวไปจากธุรกิจนี้อย่างง่ายดาย

หากคุณเจอคำปฏิเสธ เรื่อยๆ ความกล้าของคุณก็จะกลายเป็นความหวาดกลัวไปทันที

ตั้งแต่ก่อนที่คุณจะเริ่มทำ MLM คุณก็จะเริ่มพบความกลัวดังต่อไปนี้

กลัวว่าทำได้จริงหรือไม่
กลัวที่จะไปสปอนเซอร์ใคร หรือ ขายใคร
กลัวที่จะกลายเป็นผู้นำ ที่ต้องพร้อมดูแลดาวน์ไลน์
ไม่มีใครหนีพ้นความกลัวไปได้ครับ แต่มันมีวิธีที่สามารถทำให้ความกลัวหายไปจากใจเราได้

นั่น คือการที่คุณต้องเรียนรู้เรื่องธุรกิจที่คุณทำให้มากขึ้น เพิ่มความมั่นใจให้มากขึ้น การทำงานที่แท้จริงของคุณไม่ใช่การสปอนเซอร์ แต่เป็นการกำจัดความกลัวที่อยู่ในตัวคุณเอง หากคุณกล้าที่จะทำสิ่งต่างๆให้ผลเป็นไปอย่างที่คุณต้องการ คุณก็จะได้ผลนั้นตอบแทน
ในความกลัว 3 ข้อแรกที่ผมได้พูดไป คุณสามารถใช้วิธีการด้านบนได้ในการทำให้ตัวคุณประสบความสำเร็จ แต่ความกลัวที่ผมจะบอกคุณต่อไปนี้คุณไม่สามารถหาวิธีการใดๆมาแก้ไขได้ และทำให้คุณต้องล้มเหลวในธุรกิจนี้ 100%

กลัวว่าวิธีการที่ทำอยู่ไม่สามารถทำได้จริง

และ ความกลัวตัวนี้จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆตราบใดที่คุณยังทนทำต่อ จนคุณไม่สามารถทนทำอยู่ในธุรกิจเครือข่ายได้อีกต่อไป การกลัวตรงนี้ไม่ใช่เรื่องผิดครับ เพียงแต่คุณต้องรู้เท่านั้นเองว่าคุณจะทำยังไงหากเกิดความกลัวนี้ คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า ถ้าบริษัทนี้ไม่สามารถมีวิธีการทำตลาดที่ทำให้เราสามารถสำเร็จได้จริง ก็จะย้ายไปบริษัทใหม่เรื่อยๆ หากคุณคิดหยั่งงี้ ผมบอกได้เลยว่าให้ย้ายอีก 100 บริษัทก็ไม่สำเร็จ

ตัว แปรของงานนี้ไม่ได้อยู่ที่บริษัทครับ แต่มันอยู่ที่วิธีการทำ คุณสามารถเอาชนะความกลัวได้ด้วยวิธีการที่สามารถทำให้ได้ผลสำเร็จ 100%

เรียน รู้วิธีการทำตลาดแบบใหม่ให้เยอะครับ แล้วคุณจะค้นพบวิธีที่ไม่น่าเชื่ออีกหลายวิธี ที่สามารถขจัดความกลัวออกไปจากใจคุณได้หมดสิ้น และนั่นแหละที่จะทำให้คุณค้นพบวิธีทางที่คุณสามารถประสบความสำเร็จได้อย่าง แท้จริง

ความคิดของคนไทยต่อ MLM

0 ความคิดเห็น

หลายคนอาจเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดี เกี่ยวกับธุรกิจเครือข่าย เช่น โดนตื้อจนรำคาญ
เคยทำแล้วแต่ไม่สำเร็จ
เคยโดนหลอกไปในวงจรแชร์ลูกโซ่

ทั้ง นี้ แท้จริงแล้ว ธุรกิจเครือข่าย ก็คือ ธุรกิจประเภทนึงครับ หากทำอย่าง"ถูกวิธี" และมีความเป็นอาชีพมากพอ ก็จะสามารถไปสู่อิสรพภาพทางการเงินได้ครับ

คน ส่วนใหญ่เข้ามาทำธุรกิจเครือข่าย เพราะหวังรวยทางลัด กะว่าสมัครปุ๊บรวยปั๊บ โดยไม่ได้เข้าใจถึงวิธีการที่ถูกต้อง ทำตัวเป็นแมลงสาป คอยจ้องแต่จะชวนคนทุกๆคนในรัศมี 1 เมตร รอบตัว

พาลทำให้เสียเพื่อนไปเลยทีเดียว...
โดยเฉพาะในประเทศไทย หลายๆคน ทำธุรกิจเครือข่ายแบบผิดๆ

ใน ประเทศที่เจริญแล้ว อย่างญี่ปุ่น พบว่า เป็นประเทศที่มีบริษัทที่เป็นธุรกิจเครือข่าย มากที่สุดในเอเชีย รองลงมาน่าจะเป็นไต้หวัน และประชาชนส่วนใหญ่ของเค้า เปิดใจยอมรับ ธุรกิจเครือข่าย เพราะประเทศเค้า"ทำถูกวิธี" ไม่ตื้อ ไม่เซ้าซี้ และ กฏหมายเข้มงวด ไม่มีแชร์ลูกโซ่ระบาด

ธุรกิจ เครือข่าย นำรายจ่ายจากส่วนของโฆษณา ค่าส่ง ค้าปลีก มาเป็นรายได้ให้กับสมาชิก เพราะธุรกิจเครือข่าย อาศัยการกระจายสินค้า โดยสมาชิก หรือนักธุรกิจอิสระ

ที่เรียกว่าธุรกิจเครือข่าย ไม่ใช่เพราะว่าให้ดูดีหรอกครับ แต่มันมีความแตกต่างระหว่างคำว่า "ขายตรง" กับ "ธุรกิจเครือข่าย"

หลายๆคนก็ยังไม่ค่อยเข้าใจในโมเดล ที่แท้จริงของธุรกิจเครือข่าย เพียงแต่ฟังเค้าเล่าต่อๆกันมา ฟังมาว่าอย่างไร ก็คิดไปอย่างนั้น
ผมอยากจะบอกว่า มันก็คือธุรกิจที่ทำเป็นอาชีพได้จริง ธุรกิจ นี้ถ้าคิดจะทำให้ประสบความสำเร็จจริงๆ คุณก็ต้องเรียนรู้ให้มากครับ เหมือนกับคุณอยากเป็นนักบัญชี คุณก็ต้องไปเรียนคณะบัญชี คุณจะทำธุรกิจเครือข่าย แต่ไม่เรียนรู้วิธีการที่ถูกต้อง คิดแค่ว่า "จะชวนคนให้เยอะๆ" แบบนี้ก็ไม่น่าแปลกใจหรอกครับ ถ้าคุณจะไม่ประสบความสำเร็จ และคนรอบข้างก็ค่อยๆหายไปจากชีวิต

ความแตกต่าง ธุรกิจเครือข่าย (MLM) กับแชร์ลูกโซ่

0 ความคิดเห็น
ความแตกต่างระหว่างธุรกิจเครือข่าย (MLM) กับแชร์ลูกโซ่


ธุรกิจการตลาดขายตรงแบบหลายชั้น (Multi-Level Marketing หรือ MLM) คือ
ช่อง ทางการจัดจำหน่ายสินค้าช่องทางหนึ่งในการตลาด และการขายเท่านั้นเอง เพียงแต่มีลักษณะเฉพาะตัวเองบางอย่างที่แตกต่างออกไปบ้างจากธุรกิจประเภท อื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังของผู้จำหน่าย หรือที่เรียกว่า “มนุษย์ MLM” ซึ่งมหัศจรรย์มาก พวกเขาไม่ใช่ลูกจ้าง พวกเขาไม่มีเงินเดือน พวกเขาไม่มีนาย พวกเขาไม่มีลูกน้อง ไม่มีใครสั่งให้เขาทำงาน แต่พวกเขาและกลุ่มในธุรกิจของเขาต่างก้มหน้าก้มตากันทำงานอย่างขยันขันแข็ง ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน กอดเกี่ยวกันไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน เป็นเครือข่ายใหญ่บ้างเล็กบ้าง จึงมีผู้เรียกธุรกิจ MLM นี้อีกอย่างหนึ่งว่า “ธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย”


ทัศนคติ ต่อการทำธุรกิจ MLM เป็นของตัวท่านเอง ความนึกคิดและความรู้สึกของท่านจะสะท้อนออกมาในผลงาน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง ไม่มีบุคคลอื่นใด มิได้ขึ้นอยู่กับการศึกษาที่สูงกว่า หรือได้รับมรดกมาจากเครือญาติ หรืออยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ดีกว่า หรือแม้กระทั่งเกิดมาด้วยความสามารถเฉพาะตัวที่ได้เปรียบกว่า หรือที่เราเรียกว่าอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ดีกว่า ไม่มีใครที่จะมามีโอกาสมากกว่าท่านในการที่จะประสบความสำเร็จ เพราะธุรกิจ MLM ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกันทุกประการ


ธุรกิจMLM ความสำเร็จเกิดจากความสามารถในการบริหารความอิสระ และความรับผิดชอบ ในธุรกิจนี้ทุกคนต้องบริหารเวลา โดยมีพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน คือ วันละ 24ชั่วโมง เหมือนกัน



ใน ธุรกิจ MLM ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ การขายระบบเครือข่ายไม่ใช่การรวยทางลัด หรือการรวยข้ามคืน ผู้ที่ร่ำรวยในธุรกิจนี้ส่วนใหญ่ คือผู้ที่ค่อยๆเติบโตในธุรกิจโดยความเพียรพยายามที่สม่ำเสมอ และต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานพอสมควร ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จได้เท่าเทียมกัน ในการที่จะทำรายได้สูงสุดโดยไม่มีขีดจำกัด ซึ่งเป็นการทำงานให้ตัวเองด้วยตนเองอย่างจริงจัง



การ ขายระบบเครือข่ายไม่ใช่ความสัมพันธ์ระบบลูกจ้างนายจ้าง แต่ท่านกำลังทำงานร่วมกับบริษัท ความสำเร็จของบริษัทขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวแทนจำหน่ายอิสระ และความสำเร็จของตัวแทนจำหน่ายอิสระก็ขึ้นอยู่กับการทำงานเป็นทีม การ ขายระบบเครือข่ายเป็นธุรกิจที่รายรับไม่ได้ขึ้นอยู่กับการชักจูงคนเข้าร่วม ธุรกิจซึ่งการให้ผลตอบแทนจากจำนวนสมาชิกที่ท่านแนะนำ (ค่าแนะนำ) เข้าสู่บริษัทซึ่งเป็นการผิดทั้งจรรยาบรรณและกฎหมาย ในธุรกิจนี้ท่านจะได้รับผลตอบแทนก็ต่อเมื่อ ตัวท่าน และสมาชิกในเครือข่ายสามารถกระจายสินค้าได้เท่านั้น เมื่อเริ่มต้นทำแล้วอย่าเหลียวมองข้างหลัง ให้เวลากับตัวเองอย่างน้อย 1ปี เลือกสินค้าและบริษัทเพียงบริษัทเดียว เพราะยังไม่เคยมีใครประสบความสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจกับหลายๆบริษัทในเวลา เดียวกัน ธุรกิจนี้มีรากฐานมาจากความเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์ และผู้แนะนำ ถ้าท่านกำลังพยายามเหวี่ยงแห ท่านกำลังทำลายความน่าเชื่อถือของท่านเอง และอายุงานในธุรกิจเครือข่ายของท่านก็จะสั้นลงไปด้วย


ระบบพีรามิดผิดกฎหมาย (ระบบแชร์ลูกโซ่)


หลายๆ คน หลายๆหน่วยงานระบุว่าให้ระวังพีรามิดในการดำเนินธุรกิจขายตรงระบบเครือข่าย แต่ไม่มีใครออกมาอธิบายให้ชัดเจนว่าระบบดังกล่าวเป็นอย่างไร และแตกต่างจากระบบMLM อย่างไร ในบางกรณีผู้บริหารบริษัทMLM บางบริษัทเองก็ยังตอบคำถามนี้ได้ไม่ชัดเจน ระบบพีรามิด เป็นระบบฉ้อโกงในการทำรายได้ที่จำเป็นต้องมีผู้สมัครเข้าสู่ระบบดังกล่าว อย่างไม่มีวันสิ้นสุด จึงจะประสบความสำเร็จ เช่น นาย(ก) นำเงินจ่ายให้ผู้ที่แนะนำตนเข้าสู่ระบบ และแนะนำนาย(ข) จากนั้นนาย(ข) แนะนำนาย(ค) และก็จะได้รับเงินค่าแนะนำจากนาย(ค) ซึ่งแนะนำต่อไปเรื่อยๆ ส่วนรายได้จากแผนการตลาดจะมีการกำหนดจำนวนคนที่แนะนำเป็นจำนวนแน่นอน เช่น แนะนำ 10คน, 20คน กำหนดวันรับเงินค่าคอมมิชชั่นแน่นอน เช่น ทุกวันที่ 15 และ 30 ของเดือน การแนะนำเข้าสู่ธุรกิจไม่นิยมแนะนำผลิตภัณฑ์ จะชวนกันเรื่องแผนการตลาดเป็นส่วนใหญ่ กรรมวิธี ของระบบพีรามิดจะซับซ้อน แต่เป็นขั้นเป็นตอนและพลิกแพลงไปเรื่อยเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมาย ขอยกตัวอย่างที่พื้นฐานที่สุด เพื่อง่ายต่อการทำความเข้าใจ ในระบบนี้ผู้แนะนำจะขอให้กลุ่มเป้าหมายจ่ายเงินค่าสมัคร (สมมุติว่า 500บาท) ในค่าสมัคร 500บาทนี้ ผู้แนะนำจะได้รับ 200บาทเป็นค่าแนะนำ เมื่อสมัครแล้วก็จะทำการแนะนำคนอีก 10คน เข้าสู่ระบบโดยจ่ายเงินค่าสมัครคนละ 500บาทเช่นกัน ผู้แนะนำจะได้รับเงินจากค่าสมัครที่แนะนำเข้าสู่ระบบ 200 X 10 = 2,000 บาท ในขณะที่เขาจ่าย 500บาท คิดแล้วมีกำไร 1,500บาท หากจะทำให้ทุกคนได้รับเงิน จะต้องมีสมาชิกใหม่เข้าสู่ระบบตลอดกาล ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ

ฉะนั้น ในระบบพีรามิดนี้จะมีคนเป็นจำนวนน้อยที่ได้รับเงินปริมาณมาก ขณะที่คนส่วนใหญ่จะเสียเงินตามที่ได้ลงทุนไป การที่ระบบพีรามิดถูกกำหนดว่าผิดกฎหมายเพราะการที่จะให้ผู้สมัครจ่ายเงินได้ นั้น ผู้แนะนำจะต้องบอกผู้สมัครผู้นั้นว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงกว่าเงินลงทุน โดยเพียงแนะนำคนไม่ต้องขาย ไม่ต้องทำอะไร ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ระบบในลักษณะดังกล่าวจึงเข้าข่ายการหลอกลวง ระบบพีรามิดได้ถูกกำหนดว่าผิดกฎหมายเพราะวิธีการชักจูงคนเข้าสู่ระบบ และทำให้บุคคลนั้นแนะนำบุคคลอื่นเข้าสู่ระบบ ซึ่งที่จริงเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องทั้งแง่กฎหมายและคุณธรรม ระบบนี้ไม่ได้ผิดกฎหมายเพราะการให้เงินแก่บุคคลอื่นนั้นไม่ผิดกฎหมาย แต่ที่ระบบนี้ผิดกฎหมายเพราะเป็นระบบที่ทำให้คนเข้าใจผิดว่าจะสามารถได้รับ ผลตอบแทนโดยขอให้ผู้สมัครจ่ายเงินลงทุน ซึ่งตรงกับภาษากฎหมายว่า “ฉ้อโกง” โดยกระทำในลักษณะแยบยลต่างๆกัน ธุรกิจไหนเป็นพีรามิดหรือไม่ มีแบบกว้างๆให้พิจารณาได้ดังนี้

  • รายรับของสมาชิกต้องเกิดจากความสามารถในการกระจายสินค้าโดยตนเองและทีมงานเท่านั้น
  • สินค้านั้นจะต้องมีผู้บริโภคอย่างแท้จริง มิใช่ซื้อไปเพื่อหวังรายได้ตอบแทนแต่อย่างเดียว
  • บริษัทต้องไม่หวังทำกำไรจากค่าสมัครสมาชิก แต่ได้กำไรจากการจำหน่ายสินค้าเป็นหลัก




หัวใจ ของการตลาดระบบเครือข่าย คือ ผู้ขายจะต้องเคยใช้สินค้าชนิดนั้นมาแล้ว และเห็นว่าสินค้านั้นมีคุณประโยชน์จริงๆ จากนั้นจึงแนะนำสินค้าให้แก่ญาติมิตร โดยได้รับการแบ่งกำไรในการมีส่วนช่วยกระจายสินค้านั้นอย่างยุติธรรม อะไรก็ตามที่เข้าสู่ระบบ การนำเงินจากผู้สมัครใหม่ไปจ่ายให้แก่ผู้แนะนำโดยเงินนั้นมิได้มาจากการ กระจายสินค้าเพื่อบริโภค แต่กลับกลายเป็นเงินลงทุนโดยหวังผลตอบแทนที่มากกว่าเดิม ให้เข้าใจว่าระบบนั้น คือ ระบบพีรามิดจำแลง หรือไม่ก็ จอมปลอม

HOME

0 ความคิดเห็น


พบกับสุดยอดแผนการจ่ายผลตอบแทน

ปฎิวัติทุกรูปแบบการจ่ายผลตอบแทนในอดีตที่ไม่เปลี่ยนแปลงมานานกว่า 20 ปี

กลบจุดอ่อนของทุกแผนการตลาดในยุคปัจจุบัน


ในปี 2010 ระบบการทำงานผ่านอินเตอร์เน็ตจะถูกนำมาใช้กับทุกธุรกิจเกือบ 100% ในโลกใบนี้ ระบบการทำงานแบบเดิมๆจะหมดไป การโอนเงิน การซื้อสินค้า การทำงานจะผ่านอินเตอร์เนตทั้งหมด ถึงเวลา ที่คุณจะต้องเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้ตรงกับความเจริญของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป เพราะหลายๆ ปีที่ผ่านมามหาเศรษฐีของโลกในปัจจุบันมาจากอินเตอร์เนตเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีต้นทุนต่ำ แต่ได้ผลตอบรับดีที่สุดและลดเวลาในการทำงานของเราลง ตัวอย่างเว็บ ebey, amazon, google, yahoo,youtube ฯลฯ ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี สามารถทำเงินให้กับเจ้าของเว็บไซต์มากกว่าแสนล้าน ถึงเวลาที่เราต้องเปลี่ยนตัวเราให้ทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ด้วยการเริ่มต้นธุรกิจที่เป็นโลกของอินเตอร์เนตที่สมบูรณ์แบบกับเราระบบการทำงานออนไลน์เต็มรูปแบบ ซึ่งจะมีเครื่องมือต่างๆให้คุณนำไปใช้ในการทำงาน และมีระบบสอนงานที่เรียกว่า The One University มหาวิทยาลัยของการพัฒนาธุรกิจ






  • เป็นต้นสาย 300 คนแรกของประเทศไทย
  • ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพระดับ world class
  • ระบบยกสมาชิกให้ ที่ต่างจากการโยนให้ หรือ Autorun
  • Sponsor Bonus สูงสุดถึง 70%
  • Director Bonus $250
  • **Open Line Bonus สมาชิกเเนะนำสมาชิกจ่ายไม่จำกัดชั้นลึก **
  • Matching Bonus 100% จากชั้นที่1 หรือคนที่ท่านเเนะนำเอง
  • Matrix Unilevel Bonus 3.5%x7 ชั้น
  • Leader Bonus 2.5%x 5 Generation
  • Trip ท่องเที่ยวเรือ Caribbean Cruise
  • กองทุนรถยนต์ BMW 318i
  • Website Theone University เว็บไซต์สอนงานออนไลน์ มหาวิทยาลัยเพื่อพัฒนาธุรกิจ
  • ที่สำคัญสิ่งที่คุณจะได้รับในธุรกิจนี้คือ "มิตรภาพ"




  • Kyäni เป็นธุรกิจ E-Commerce จากบริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกาซึ่่งดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2005 ขยายธุรกิจใน USA, Canada, Peuto Rico, China, Hongkongเพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยในวันที่ 19 มีนาคมนี้ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2552 นี้
  • ระบบการทำงานออนไลน์เต็มรูปแบบ ซึ่งจะมีเครื่องมือต่างๆให้คุณนำไปใช้ในการทำงาน และมีระบบสอนงานในรูปแบบ VDO Presentation และ VDO Training เรียนรู้ระบบ 90 วัน เพื่อความสำเร็จในชีวิตคุณ!!!
ที่สำคัญ คือ "เป็นผู้ให้ก่อน จึงจะเป็นผู้รับ"
จงเชื่อมั่นในตัวเอง อย่าโลเลที่จะทำ ทำจนถึงที่สุด อย่าเสียใจกับเรื่องราวที่เคยผ่านมา
จงสร้างศรัทธาให้แก่ตัวเอง บอกตัวเองว่า
"เราทำได้ เราทำได้"






The One Team Group


SEE U AT THE TOP


Nitric Oxide

0 ความคิดเห็น
การค้นพบเกี่ยวกับหน้าที่ของ Nitric Oxide ในร่างกายมนุษย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญ ที่สุดของการค้นพบในประวัติศาตร์การแพทย์และวิทยาศาสตร์ ในปี 1987 มีการค้นพบกระบวนการทำงาน Nitric Oxide ในร่างกายมนุษย์ ที่มีส่วนสำคัญต่อประวัติของวงการแพทย์และวิทยาศาสตร์ การค้นพบโมเลกุลนี้ทำให้วงการวิทยาศาสตร์แพทย์มีการพัฒนาและพบมันเป็นส่วน ประกอบของเซลล์ ของ ทุกเซลล์ในร่างกายมนุษย์

ความ สำคัญของ Nitric Oxide นี้ได้ทำให้นัก 3 ผู้ชำนาญด้านเภสัชวิทยาได้รับรางวัลโนเบิลสาขาสรีระวิทยา ในปี 1998 สำหรับผลงานวิจัยเกี่ยวกับ Nitric Oxide ล่าสุด Nitric Oxide ได้ถูกตั้งชื่อว่า "Molecule of Life" หรือ โมเลกุลแห่งชีวิต ซึ่งถ้าปราศจากโมเลกุลนี้ สิ่งมีชีวิตก็ไม่สามารถอยู่

Nitri Oxide ?

Nitric Oxide หรือ เรียกสั้นๆว่า NO ยังคงเป็นที่ถกเถียงในวงการการแพทย์ ว่ามันสามารถทำให้เกิดขบวนการการเกิดแก๊สตามธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ ดังนั้นNitric Oxide จึงมี ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อร่างกาย และมีผลกระทบต่อขบวนการสรีระวิทยา รวมทั้งระบบหมุ่นเวียนโลหิต ขบวนการอักเสบ การปลดปล่อยก๊าซออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อต่างๆโดยผ่านเม็ดเลือดแดง

ประโยชน์ที่จะได้รับจาก Nitric Oxide

Nitric Oxide ช่วยรักษาสมดุล ซ่อมแซม และป้องกันดูแล ทุกๆเซลล์ของระบบภายในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยต่อสู้เกี่ยวกับความเจ็บปวด การอักเสบ ปัญหาของระบบย่อยอาหาร อาการนอนไม่หลับ โรคเบาหวาน และการเกิดบาดแผล สอดคร้องกับช่วยเพิ่มพลังงาน ปรับปรุงการทำงานของระบบสืบพันธุ์ ควบคุมน้ำหนัก เพราะเป็นโมเลกุลที่มีตัวส่งสัญญาน ซึ่งกระตุ้นการทำงานโดยรวมโดยการจัดระเบียบการทำงานของกลไกทางสรีระศาสตร์

ที่ สำคัญการทำงานของ Nitric Oxide ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อเรียบของผนังหลอดเลือดผ่อนคลาย ทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดี ส่งเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น นี่เป็นสาเหตุทำให้หัวใจทำงานได้เต็มที่ ทำให้ร่างกายได้รับ ออกซิเจน สารอาหาร วิตาิิมินต่างๆ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ส่งไปเลี้ยงจุดต่างๆของร่างกาย



Nitric Oxide
เริ่มแรกมาจากการสังเคราะห์ได้เองจากร่างกาย ผ่านขบวนการ เปลี่ยนกรดอะมิโน
L-arginine (1 ใน 20 amino acids) เปลี่ยนเป็น citrulline, L-arginine เป็นต้นกำเนิดของ Nitric Oxide ที่ได้มาจาก โปรตีนและส่วนเล็กของ โปรตีน peptides จาก ลำไส้เล็ก และ ดูดซึมร่วมด้วยกรดอะมิโน เข้าสู่กระแสเลือด และ ถูกส่งออกไปทุก ๆ เซลล์และบางส่วนของ L-arginine นี้ถูกเผาผลาญสำหรับใช้ในกระบวนการสร้าง Nitric Oxide และใช้สร้างโปรตีน อื่นๆ


Nitric Oxide สร้างจากสารที่รู้จักกันเป็นอย่างดีที่เรียกว่า Nitrate, Nitrites พบมากในพืชที่มีใบสีเขียว และต้นยอ ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก ทั้ง Nitrates และ Nitrites ถูกเปลี่ยนเป็น Nitric Oxide โดยกรดในกระเพาะอาหาร ไม่เพียงแต่ Nitric Oxide จะมีประโยชน์ต่อเราแล้วอีกทั้งยังช่วยทำลายแบคทีเรียในอาหารที่เรากินเข้าไป แล้วกระจายไปทั่วกระเพาะอาหาร ผ่านเข้าไปสู่เม็ดเลือดแดง รวมเข้ากับโปรตีน ส่งไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย

ผลประโยชน์ของ ลูกยอ และ Nitric Oxide

ตั้งแต่ ที่ได้รู้จักต้นยอ (Morinda Citrifolia) มาเป็นเวลา 10 กว่าปี เป็นปรากฎการณ์ที่มหัศจรรย์ต่อสุขภาพร่างกายของคน ผ่านคน 100 เป็น 1000 จากรอบโลก และจากชาว Polynesians พบว่า ต้นยอและลูกยอ มีประโยชน์ที่ีดีต่อร่างกาย แต่ไม่มีใครอธิบายได้ว่า มันดีอย่างไร กลไกการทำงานของมันเป็นอย่างไร มาจนถึงวันนี้เลย

การวิเคราะห์อย่าง ละเอียดเกี่ยวกับต้นยอ ได้เปิดเผยว่ามีส่วนประกอบของสารอาหารที่น่าแปลกใจ และเป็นพืชเฉพาะ และยังมีส่วนประกอบที่สำคัญที่ช่วยเสริมสร้างรายกายให้แข็งแรง ประกอบด้วย Antioxidants, phytochemicals และ Bioflavonoids ใบ และ รากของต้นยอ เป็นแหล่งของโปรตีนที่สมบูรณ์แบบ และมี กรดอะมิโน ที่สำคัญ

ในปี 2001 มีการทดลองในห้องปฏิบัติการเพื่อทดสอบ การทำงานของต้นยอ ในหลอดทดลอง โดยใช้น้ำของลูกยอ พบว่า สามารถผลิต Nitric Oxide ได้ นอกจากนั้น ยังพบว่าใบของต้นยอ สามารถผลิต Nitric Oxide มากเป็น 4 เท่าของน้ำลูกยอ อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาและทดลองการใช้ทุกส่วนของต้นยอ เพื่อผลิต Nitro Fx ทำให้ได้ปริมาณ Nitric Oxide มากกว่า 50 เท่า จากการใช้เพียงแต่น้ำลูกยอ


Omega3

0 ความคิดเห็น

ภาวะหัวใจวาย (HEART ATTACK) เป็นต้นเหตุสำคัญ ที่คร่าชีวิตชายหญิง โดยเกิดจากเส้นเลือด ที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบตัน เนื่องจากมีแผ่นไขมันอุดตัน

ช่วง ระหว่างปี ค.ศ.1970 จนถึงปี ค.ศ.1980 นัก วิจัยพยายามค้นคว้าหาหนทาง แก้ไขปัญหานี้ แล้วพบว่าชาวเอสกิโม ที่อาศัยอยู่บนเกาะกรีนแลนด์ แถบขั้วโลกเหนือ ซึ่งมีอากาศหนาวเย็น จนน้ำแข็งจับ และมีอาชีพส่วนใหญ่เป็นชาวประมง มีวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์คือ รับประทานปลาเป็นอาหารหลัก นั้นมีอัตราการเกิดโรคหัวใจต่ำที่สุดในโลก ทั้ง ๆ ที่ปัญหาการดื่มสุรามาก นักโบราณคดีด้านมนุษยศาสตร์ (Anthropologist) สันนิษฐาน ว่า ที่มนุษย์เรามีวิวัฒนาการ มาตามลำดับเป็นเวลาหลายพันปีนั้น ดำรงชีวิตอยู่ด้วย อาหารส่วนใหญ่ที่มีกรดไขมัน อันเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย คือ กลุ่มกรดไขมัน ที่รวมเรียกชื่อว่า "โอเมก้า - 3" (Omega -3-fats) ซึ่งพบมากในปลา โดยเฉพาะปลาทะเลธัญพืช และเมล็ดพืช (Nut and seeds) บางชนิด รวมทั้งพืชผักใบเขียว ต่อมาเมื่อเวลาผ่านพ้นไป คนเรารับประทาน อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า - 3 น้อยลงจนเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหลายชนิด นับตั้งแต่โรคหัวใจวาย โรคครรภ์เป็นพิษ (Preclampsia) โรคไขข้ออักเสบชนิดรูห์มาตอยด์ (Rheumatoid arthritis) รวมทั้งโรคอื่น ๆ อีกมาก แม้แต่โรคซึมเศร้า (Depression) และความก้าวร้าว


ร่างกาย ของเราต้องการกรดไขมันจำเป็น (Essential Fatty acid) ในการมีชีวิตอยู่ อย่างมีประสิทธิภาพ สองชนิด กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า - 3 นั้น เป็นหนึ่งในกลุ่มกรดไขมัน ที่ร่างกายมนุษย์ขาดไม่ได้ สารสำคัญที่อยู่ในกลุ่มโอเมก้า - 3 นี้แบ่งได้เป็นสองชนิดใหญ่ คือ ชนิดที่หนึ่งได้แก่พวก EPA และ DHA

(EPA ย่อมาจาก EICOSAPANTAENOIC ACID)
(DHA ย่อมาจาก DOCOSAHEXANOIC ACID)

ซึ่ง พบมากในปลาอ้วน ๆ ใต้ทะเลลึก เช่น ปลาซาลมอน และ แม็คเคอเรล (SALMON AND MACKEREL ซึ่งมีไขมันที่เรียกว่า FISH OIL น้ำมันปลา (มิใช่น้ำมันตับปลา) จำนวนสูงกว่าปลาน้ำจืด ส่วนชนิดที่สองชื่อ กรดอัลฟาไลโนเลอิก (ALPHA - LINOLEIC ACID) ซึ่งเป็นกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า - 3 ซึ่งพบมากในอาหารพวกธัญพืช ร่างกายของเราสามารถเปลี่ยนแปลงกรดไขมันที่มีอยู่ในพืชตัวนั้น ให้เป็นกรด ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า คือ EPA และ DHA น้ำมันพืชที่มีกรดไขมันตัวนี้สูง คือ Canola oil และ FAXSEED oil ส่วนพืชพวกข้าวโพด, ถั่วเหลือง, เมล็ด ทานตะวัน และผลิตภัณฑ์ทางอาหาร ที่ทำจากพืชและน้ำมันพวกนี้ เช่น เนยเทียม ย่อมมีกรดไขมันที่มีประโยชน์ตัวนี้อยู่มากเช่นกัน อย่างไรก็ตาม นักวิจัยด้านโภชนาการเสนอแนะว่า ร่างกายคนเราควรได้รับ กรดไขมัน ทั้งสองชนิด ในสัดส่วนที่สมดุลกัน เช่น หนึ่งต่อหนึ่ง คือ มิใช่ว่า รับประทานกรดไขมัน ชนิดหนึ่ง สูงกว่าอีกชนิดหนึ่ง


กลไกการทำงาน ของกรดไขมันในร่างกายเรานั้นเชื่อกันว่า เกี่ยวข้องกับ การทำงานของ เซลล์ทุกชนิดของร่างกายโดยเฉพาะ DHA ซึ่ง พบมากในน้ำนม และรกอั นเป็นแหล่งสำคัญ ของการผลิตฮอร์โมนสำหรับทารกในครรภ์นั้น มีความสำคัญในการเจริญเติบโต ของสมองของทารกเช่นเดียวกับเซลล์ชนิดอื่น ๆ ทุก ๆ วัน ร่างกายของคนเรา ผลิตสารกลุ่มหนึ่ง ที่มีคุณสมบัติ คล้ายฮอร์โมน ชื่อ "EICOSANOIDS" สารกลุ่ม นี้มี ส่วนเกี่ยวข้อง ในการควบคุม ระบบการแข็งตัวของเลือด การหดตัวของหลอดเลือด และการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบ ซึ่งเป็นกลุ่มกล้ามเนื้อ ที่อยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย และอยู่นอกกการบังคับด้วย เส้นประสาท ชนิดที่บังคับแขนขา คือ เป็นกลุ่มกล้ามเนื้อที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ ระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น กล้ามเนื้อของมดลูก นอกจากนี้ สารนี้ ยังจำเป็นในกรณีที่ ร่างกายเกิดการอักเสบ เพราะต่อสู้กับเชื้อโรคหรือความผิดปกติต่าง ๆ ในการผลิตกลุ่มสารชื่อ EICOSANOIDS นี้ร่างกายต้องใช้วัตถุดิบ คือ ทั้งกรดไลโนเลอิก (Linoleic acid) และ กลุ่มโอเมก้า - 3 แต่ถ้าร่างกายได้รับกลุ่มโอเมก้า - 3 น้อยไป และมีกรดไลโนเลอิก เป็นสัดส่วนเกินพอดี เมื่อเทียบกับกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า - 3 แล้ว ร่างกายของเรา ย่อมมีปัญหา เกี่ยวกับลิ่มเลือดแข็งตัว ปวดท้องน้อยเวลามีประจำเดือน และข้ออักเสบ ดังกล่าว


เวลานี้ นักวิจัยยังไม่เสนอข้อตกลงที่แน่นอน ว่าคนเราควรได้รับสารกลุ่มกรดไขมันโอเมก้า - 3 เป็น จำนวนเท่าใด เพื่อนแพทย์คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าหลังจากที่เขาซื้อปลาทะเล เช่น ซาลมอน มารับประทานทุกวันระดับโคเลสเตอรอล ที่สูงเกินปกติไปมากนั้น ได้ลดลงต่ำกว่าระดับเดิม จนอยู่ในขั้นปกติ ภายในเวลา 3 เดือน เท่านั้น แต่ทั้งนี้ต้องรวมทั้งการออกกำลังกายด้วย ส่วนปลาที่เขาซื้อมารับประทานนั้น เป็นปลาที่จับจากทะเล มิใช่ปลาเลี้ยง ดิฉันไม่ทราบว่า ปลาจากสองแหล่งนั้น มีจำนวนกรดไขมันโอเมก้า - 3 มาก น้อยกว่ากัน จนคุ้มกับราคาปลา ราคาถูกแพงต่างกันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากรายงานที่ส่งเสริมการรับประทานปลาทะเล รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่สกัดมา ซึ่งวางขายตามหิ้งของร้านขายยา ซึ่งมีชื่อว่า "น้ำมันปลา" (Fish oil) นั้น มีมากมาย เป็นต้นว่า

* ในกลุ่มเด็ก 468 คนในทวีปออสเตรเลีย ซึ่งได้รับประทานปลาทะเล ที่อุดมด้วย กรดโอเมก้า - 3 อย่างน้อยหนึ่งครึ่งต่อสัปดาห์ เป็นกลุ่มที่เป็นโรคหอบหืดน้อยกว่า กลุ่มเด็กที่รับประทานปลาถึง 25 เปอร์เซ็นต์ (Medical Journal Australia Feb 5-1996)
* ที่เมืองซีแอตเติล สตรีจำนวน 324 คน ที่รับประทานปลา โดยเฉพาะปลาซามอล ไม่ว่าในรูปอบหรือย่าง อย่างน้อยสองครั้งต่อสัปดาห์ มีอัตราการเกิดโรคข้ออักเสบ ชนิดรูห์มาตอยด์ต่ำลง ส่วนสตรีที่เกิดปัญหานี้ ถ้าได้รับน้ำมันปลา ในรูปผลิตภัณฑ์ เม็ดอาหารเสริม จะมีอาการอักเสบของข้อลดลง (Epidemiology May 1996)
* สตรีที่ปวดท้องช่วงมีประจำเดือนมากเพราะมีการผลิตสารกลุ่ม EICOSANOIDS สูง จนทำให้เกิดมดลูกหดตัวอย่างมาก อาการเจ็บปวดจะลดลง เมื่อเธอรับประทาน น้ำมันปลาเป็นเวลาสองเดือน (ทดลองในกลุ่มสตรี 37 คน ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนน้อย American Journal of OB-GYN April 1996 )
* กลุ่มมารดาที่ตั้งครรภ์ ถ้ารับประทานอาหารที่มีกรดโอเมก้า - 3 จะเกิด ปัญหา ทางการตั้งครรภ์เป็นพิษต่ำลง (Epidemiology May 1995)
* ส่วนโรคลำไส้เล็กอักเสบเรื้อรัง และมะเร็งเต้านมนั้น การได้รับอาหาร กลุ่มกรดไขมันโอเมก้า - 3 ซึ่งมีพวก EPA และ DHA สูง ช่วยทำให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ มีอาการดีขึ้น และเกิดอาการกำเริบน้อยลง (New England Journal of Medicine June 13 1996)
*

ส่วนเรื่อง เกี่ยวกับหัวใจ กรดไขมันกลุ่มนี้ช่วยทำให้เยื่อหุ้มเซลล์ มีกลไกการปั้มเข้าออก สารต่าง ๆ เช่น แคลเซียม, โซเดียมคลอไรด์และประจุไฟฟ้าอื่น ดำเนินไปอย่างปกติ เพื่อควบคุมการยืด และหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ ด้วยเหตุนี้ถ้ากรดโอเมก้า - 3 ขาดหายไป การเต้นของหัวใจ ย่อมผิดปกติ เรียกว่า การเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmia) ซึ่งเป็นสาเหตุการตายที่พบบ่อย และเกิดแทรกซ้อนหลังจากหัวใจวายดังปรากฏในการทดลองกับกลุ่มผู้ชาย 295 คน ที่เมืองซีแอตเติล ที่รับประทานปลาอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง จะมีอัตราการเกิด ภาวะหัวใจล้มเหลว เนื่องจากการเต้นหัวใจผิดจังหวะ เพียงครึ่งหนึ่งของกลุ่ม ที่ ไม่รับประทานอาหารแบบเดียวกัน ส่วนในประเทศอังกฤษ ผู้ชายจำนวน 883 คน ที่เคยมีอาการหัวใจวายแล้ว ดำรงชีวิตต่อมาเป็นเวลา 2 ปี โดยการรับประทานอาหาร กลุ่มที่มีไขมัน โคเลสเตอรอลต่ำ และรับประทานปลาทะเล ที่มีกรดไขมันพวกนี้ อยู่เป็นจำนวนมาก อย่างน้อยสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ ผู้ชายกลุ่มนี้มีอัตราตายลดลง 29 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ดูแลตนเองทางโภชนาการดังกล่าว (Lancet Sept 30 1989) ส่วนชายชาวฝรั่งเศส ที่เคยมีปัญหาเดียวกันจำนวน 289 คนนั้น มีอัตราตายจากโรคหัวใจลดลง ถึง 81 เปอร์เซ็นต์ใน 5 ปี ถ้ารับประทานอาหารดังกล่าว รวมทั้งพวกเนยเทียมที่ทำจาก Cainola oil (Lancet June 11 1994)


นอกจากนี้ เยื่อหุ้มเซลล์ในสมองมีส่วนประกอบที่เป็นสารกรด DHA ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเหตุนี้จิตแพทย์ Dr.Joseph R.Hibbeln แห่ง National Institute on Alcohol Abuse and Alcoholism เชื่อว่าถ้าปริมาณสารกรด DHAใน เยื่อหุ้มเซลล์ของสมองต่ำลง ย่อมก่อให้เกิดปัญหาในการสื่อสารทางสมอง จนเกิดความผิดปกติทางด้านอารมณ์ โดยเฉพาะทางซึมเศร้า เพราะเขาเฝ้าติดตามดูในคนไข้ที่มีปัญหานี้ และนักศึกษาชาวญี่ปุ่น 22 คน



Blueberry

0 ความคิดเห็น
นักวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับผลไม้พบว่า ผล Blueberry นั้น นอกจากจะรสอร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ถึงขั้นที่นักวิจัยจัดให้เป็นยอดผลไม้ชนิดใหม่

Blueberry ผลไม้ผล กลมเล็กๆ สีน้ำเงินเข้มนั้น ชาวอเมริกันอินเดียน หรืออินเดียนแดงใช้ในการ ปรุงอาหาร ใช้เป็นยา และทำสีย้อมแบบครามมานานแล้ว Blueberry เป็นไม้พุ่ม มี 2 ชนิด คือ ชนิดพุ่มสูงที่ปลูกกันตามบ้าน และชนิดพุ่มเตี้ย หรือ Blueberry ป่า

เป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่า Blueberry มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากเพราะมีวิตามิน C และ วิตามิน E อยู่มาก ราวสองสามปีมานี้ ความต้องการ Blueberry สูงขึ้นมาก เมื่อนักวิจัยพบว่า ผลไม้กลมๆ เล็กๆ สีน้ำเงินเข้มนี้ มีสาร anti-oxidant อยู่ในระดับสูงด้วย สาร anti-oxidant นั้น เป็นสารเคมีที่ต่อต้านการอักเสบ ช่วยต่อสู้ภาวะการแก่ตัวหรือชะลอความแก่ และอาจช่วยป้องกันโรคมะเร็ง นักวิจัยบอกว่ายิ่ง Blueberry ป่าด้วยแล้ว มีระดับสาร anti-oxidant สูงมากกว่าผลไม้ชนิดอื่นใด

นักวิทยาศาสตร์ที่ University of Maine ในรัฐ Maine ซึ่งปลูกต้น Blueberry ป่ามากที่สุดในโลก กำลังทำการศึกษาหลายอย่างเกี่ยวกับผลไม้นี้ อย่างหนึ่งคือ การศึกษาที่มุ่งในเรื่องระบบหลอดเลือดหัวใจและผลที่ Blueberry มีต่อการปรับปรุงการไหลเวียนของโลหิต และการลดการอักเสบของเส้นเลือดใหญ่ การศึกษาอีกอย่างหนึ่ง มุ่งดูว่า ผลไม้นี้จะช่วยทำให้คนเรารู้สึกอิ่มโดยที่รับประทานอาหารน้อยได้หรือไม่ และยังมีการศึกษาเกี่ยวกับผลในการช่วยปรับปรุงขีดความสามารถของคนเรา ในการปรับสายตาให้ชินกับความมืด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ด้านความปลอดภัยในการขับรถตอนกลางคืน

นอกจากนั้น ยังมีนักวิจัยกลุ่มอื่นศึกษาในเรื่องที่ว่า Blueberry จะช่วยในการบำบัดรักษาโรคอัลไซเมอร์ และโรคเบาหวานได้อย่างไรหรือไม่ด้วย

David Yarborough อาจารย์สาขาวิชาพืชสวนที่ University of Maine กล่าวว่า จากการศึกษาที่ผ่านมา ผล Blueberry ไม่ได้ช่วยป้องกันโรคเหล่านั้น แต่ช่วยชะลอการขยายตัวของโรคและปรับปรุงสุขภาพ และความสามารถในการทำงานของอวัยวะต่างๆ

บลูเบอร์รี่และแอนติออกซิแดนท์
แอนติ ออกซิแดนท์เป็นสารที่ช่วยป้องกันการเสื่อมของร่างกายช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และโรคเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับวัย ผลไม้สด รวมถึงบลูเบอร์รี่ และผักต่างๆ ประกอบไปด้วยสารแอนติออกซิแดนท์ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติหลายชนิด เช่น วิตามิน C และE. บลูเบอร์รี่ 1 ถ้วยจะมี VitaminC 14 มิลลิกรัม และ วิตาิิมิน E 0.8 มิลลิกรัม มากไปกว่านั้นบลูเบอร์รี่ยังมีสาร anthocyanins และ phenolics ซึ่งสามารถทำหน้าที่เหมือนแอนตี้ออกซิแดนท์ ตามข้อมูลอ้างอิงจาก USDA สถาบันวิจัยโภชนาการทางด้านสรีระศาสตร์ บลูเบอร์รี่จัดเป็นผลไม้ที่มีแอนติออกซิแดนท์สูงที่สุด ผลทดสอบค่าที่เรียกว่า "ORAC" (Oxygen Radical Absorbance Capacity) นักวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าบลูเบอร์รี่สดให้สารแอนติออกซิแดนท์มากกว่าผลไม้ สดอื่นและผักต่างๆ


อานุภาพของ Alaska Wild Blueberry
Alaska Wild Blueberry เติบโตในป่าธรรมชาติท่ามกลางสิ่งแวดล้อม ชนพื้นเมือง Alaskan ถือว่า Wild Blueberry จัดเป็นสุดยอดอาหารซึ่งเป็นอาหารสุขภาพที่สามารถเยี่ยวยาได้ตามธรรมชาติ
ข้อ เท็จจริงที่ได้ พบว่ามีเฉพาะในบลูเบอร์รี่ป่าจากอลาสก้าคือผลบลูเบอร์รี่จากอลาสก้ามีค่าสาร แอนตี้ออกซิแดนท์สูงกว่า 10 เท่าเมื่อวัดค่ากับผลบลูเบอร์รี่ธรรมดา ซึ่งการวัดค่าแอนตี้ออกซิแดนท์นี้ได้ทำวิจัยโดย USDA เช่นกัน

ประโยชน์ของน้ำ เมล็ดและเปลือกองุ่น
Grape concentrate น้ำองุ่นเข้มข้น
มีข้อมูลทางการแพทย์หลายฉบับที่กล่าวถึงประโยชน์โดยแบ่งเป็นข้อๆ ได้ดังนี้

1.การลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
2.การลดการเกิดมะเร็งชนิดต่างๆ
3.การช่วยโรคกลุ่มทางเดินหายใจอุดตัน
4.การป้องกันความเสื่อมของประสาทตาจากความชรา
5.ฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย

การลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
ในองุ่นจะประกอบไปด้วยสารที่มีชื่อว่า flaviniod ซึ่งตัว flaviniod นี้สามารถช่วยลดการเกิดโรคหัวใจได้โดย 2 กลไกคือ
1.ลดการจับตัวกันของเกล็ดเลือดตามหลอดเลือด
2.ลดการเกิดคลอเลสเตอรอลชนิด LDL ซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย
นอกไปจากนี้ยังพบอีกว่าในองุ่นมีสารอาหารที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ดังนี้
1.ช่วยเพิ่ม NO (nitric oxide) ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดการเกาะตัวกันของเกร็ดเลือด
2.ช่วยลดการสะสมตัวของคลอเลสเตอรอลซึ่งทำให้เกิดการหนาตัวขึ้นของหลอดเลือด
3.พบว่ามีการเพิ่มของสาร alpha-tocopherol ซึ่งเป็น antioxidant กลุ่มเดียวกันกับ vitamin E มีผลช่วยในการบำรุงกล้ามเนื้อหัวใจ
ซึ่งทั้งหมดนี้ยังมีส่วนช่วยลดระดับของคลอเลสเตอรอล LDL ซึ่งไม่ดีต่อร่างกายด้วย ทำให้ลดการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย

องุ่นกับการลดการเกิดมะเร็ง
ข้อมูลมากมายที่ช่วยแสดงผลว่า องุ่นสามารถช่วยลดการเกิดมะเร็งได้ โดยเฉพาะมะเร็งเต้านมโดยจะทำให้โอกาสแพร่กระจายของตัวมะเร็งลดน้อยลงและช่วย ให้อาการของมะเร็งเต้านมลดน้อยลง นอกจากนั้น ยังช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านมได้ด้วยซึ่งเป็นคุณสมบัติขององุ่น โดยเฉพาะองุ่นแดง กล่าวโดยสรุปว่า องุ่นมีผลทั้งในการป้องกัน การลดความเสี่ยง และการลดความรุนแรงของมะเร็งได้

การช่วยโรคกลุ่มทางเดินหายใจอุดตัน
ทางเดินหายใจโดยปกติจะมีเซลล์ที่คอยทำหน้าที่ในการกำจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลก ปลอมที่หลุดเข้ามา หลักๆคือ alveolar macrophage [แมคโครฟาจ] โดยปกติเจ้านี่จะทำหน้าที่จับสิ่งแปลกปลอมรวมถึงเชื้อโรคกินแล้วจะเกิด กระบวนการทำลายไป แต่ผลพวงคือ macrophage จะปล่อยสารเคมีออกมาซึ่งสารนี้จะไปดึงดูดเม็ดเลือดขาวมาช่วยกันกำจัดสิ่ง แปลกปลอม ซึ่งสารที่มันปล่อยออกมานี้ผลดีคือกำจัดสิ่งแปลกปลอมได้ แต่ผลเสียทางอ้อม คือเนื้อเยื่อของทางเดินหายใจและเนื้อปอดจะโดนอัดไปด้วย สารตัวนี้คือ IL-8 (interleukin 8) จากการศึกษาพบว่าเมื่อทดลองใส่ flaviniod ที่มีในน้ำองุ่นลงไป พบว่า IL-8 นี้แทบจะตรวจไม่พบ ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจอยู่แล้ว

การป้องกันความเสื่อมของประสาทตาจากความชรา
Macular คือศูนย์รวมของการรับภาพบนจอประสาทตา(retina) ซึ่งเมื่ออายุมากๆขึ้นจะมีการเสื่อมได้ จึงเรียกว่า age-related คือสัมพันธ์กับอายุ ถ้ามีการเสื่อมก็จะทำให้มีปัญหาในการมองเห็น พบว่าการกินผลไม้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะองุ่นนี้ด้วยจะช่วยชะลอการเสื่อมของจุดรับภาพได้


Product

0 ความคิดเห็น
รูปแบบการดำเนินชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน อาจทำให้คุณ ละเลย หรือให้ความสนใจเพียงเล็กน้อย กับการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ อาหารการกิน สภาพจิตใจ การออกกำลังกาย และการพักผ่อนให้เพียงพอ จึงกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนมีสุขภาพไม่แข็งแรง หรือมีปัญหาด้านสุขภาพ การได้รับรู้ข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในการป้องกัน บำบัด บรรเทา และรักษาสุขภาพ จะช่วยคุณสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเองได้ดีขึ้น โรคบางโรค บางอาการ ก็สามารถป้องกันได้ง่ายๆ ด้วยการใช้ชีวิตอย่างมีสมดุลในทุกๆ ด้าน

คุณคงจะไม่ปฏิเสธที่จะเลือก การป้องกัน มากกว่า การรักษา นี่คือความจริงของคนไทยปัจจุบัน

ดูแลสุขภาพของคุณวันนี้ด้วยวิธีง่ายๆ กับ Kyani Product




รายละเอียด Kyani Sunrise

ผลิต จาก Wild Alaskan Blueberry (บลูเบอร์รี่ป่าจากอลาสก้า) ซึ่งประกอบด้วยแอนติอ๊อกซิแดนท์สูงถึง 10 เท่าของบลูเบอร์รี่พื้นบ้านและเมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่นมังคุด และ โนนิ (ซึ่งมีสารแอนติอ๊อกซิแดนท์สูงในตัวของมันเอง) บลูเบอร์รี่ป่ามียังคงมีค่า ORAC (ระดับแอนติออกซิแดนท์) สูงกว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าว


ประโยชน์ที่ได้รับจาก Kyani Sunrise
1. ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
2. ช่วยลดการเกิดโรคมะเร็งชนิดต่างๆ
3. ช่วยโรคกลุ่มทางเดินหายใจอุดตัน
4. ช่วยป้องกันความเสื่อมของประสาทตาจากความชรา
5. มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย


ใบรับรองจากห้องแล๊บของ Brunswick





Kyani Sunset เป็น แหล่งที่ดีที่สุดของกรดไขมัน Omega-3 สำหรับความต้องการของร่างกายคุณ ซึ่งจะช่วยในเรื่องของสุขภาพของเส้นเลือด ผลิตภัณฑ์นี้ช่วยในเรื่องของไมเกรน, โรคไขข้อ และโรคความดันโลหิตต่ำ


ประโยชน์ที่ได้รับจาก Kyani Sunset
1. เพิ่มในการดูแลและทำความสะอาดตับและไตจากการมีสิ่งแปลกปลอม
2. ช่วยสร้างฮอร์โมน และลดความเครียด
3. ทำให้ผิวดูสุขภาพดี และลดระดับคอเรสเตอรอล
4. ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดหัวใจวาย และเส้นเลือดในสมองอุดตัน
5. ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดมะเร็ง





Kyani Nitro FX ผลิตจาก สมุนไพรลูกยอ เป็นการค้นพบที่น่าประหลาดใจของวงการวิทยาศาสตร์ ที่จะช่วย ในเรื่องของการรักษาสมดุล ซ่อมแซม ป้องกันระบบเซลล์ของร่างกายมนุษย์โดยขบวนการสร้าง Nitric Oxide Effect

ประโยชน์ที่ได้รับจาก Kyani Nitro FX
1. ช่วยรักษาสมดุล ซ่อมแซม และ ป้องกันดูแล ทุกๆเซลล์ของระบบภายในร่างกาย
2. ช่วยป้องกันปัญหาของระบบย่อยอาหาร
3. ป้องกันโรคเบาหวาน
4. ช่วยเพิ่มพลังงาน ปรับปรุง การทำงานของระบบการสืบพันธุ์ และการควบคุมน้ำหนัก
5. กระตุ้นการทำงานโดยรวมโดยการจัดระเบียบการทำงานของระบบกลไกทางสรีระวิทยา
6. ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อเรียบของผนังหลอดเลือดผ่อนคลาย ทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดี ส่งเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆของร่างกายได้ดีขึ้น นี่เป็นสาเหตุทำให้หัวใจทำงานได้เต็มที่ ทำให้ร่างกายได้รับ อ๊อกซิเจน, สารอาหาร, วิตามิน และปัจจัยที่สำคัญส่งไปเลี้ยงจุดต่างของร่างกาย

โอกาสทางธุรกิจ Kyani

0 ความคิดเห็น

OPP 1

video

OPP 2

video





สร้างแบรนด์ด้วย iPhone

0 ความคิดเห็น
ทำไมต้องสร้างแบรนด์?

ปัจจุบัน ในยุคที่ธุรกิจมีการแข่งขันที่สูง สมรภูมิการแข่งขันของบางอุตสาหกรรมแทบจะลุกเป็นไฟเพื่อแย่งลูกค้าด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการออก Promotion กระหน่ำเพื่อสร้างยอดขาย การออกผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added Services) ให้กับตัวผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความคุ้มค่าให้กับลูกค้าให้มากที่สุด

แต่ปัจจัยหลักสำคัญที่จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวบริษัทในระยะยาวนั้น อยู่ที่การสร้าง “Brand Equity” ของบริษัท ซึ่งเป็นปัจจัยที่บริษัทต่างๆจะต้องให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ

“Brand Equity” คือ มูลค่าสินทรัพย์และคุณค่าของแบรนด์ที่อยู่ในใจของลูกค้าหรือผู้บริโภค จนทำให้แบรนด์หรือตราสินค้านั้นๆสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มสูงๆให้กับเจ้าของได้ หรือจะกล่าวถึงประโยชน์ก็คือ แบรนด์หรือตราสินค้า ที่ไปติดอยู่บนตัวสินค้าใดสินค้าหนึ่ง แล้วสามารถขายในราคาที่สูงมากกว่าสินค้นอื่นๆที่เป็นสินค้าแบบเดียวกันแต่ไม่มี “Brand Equity” ได้

วิธีการสร้าง “Brand Equity” สามารถเริ่มได้ง่ายๆ โดยการทำให้คนอื่น รู้จักแบรนด์ของเรา หรือ เรียกว่าเป็นการสร้าง Brand Awareness ซึ่งทำได้โดยการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ไปสู่กลุ่มเป้าหมายของสินค้าและบริการที่ต้องการ โดยอาศัย สื่อ (Media) เป็นช่องทางในการนำส่งข้อความหรือเนื้อหาสาระที่เจ้าของแบรนด์นั้นๆ


ตัวอย่าง Brand Equity ที่มีมูลค่าสูง คือ brand “Intel” ที่สามารถสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) ได้อย่างมหาศาล แม้ว่า Intel จะไม่ใช่ผู้ผลิต PC เลยก็ตาม

แบรนด์ “Virgin” เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มี Brand Equity สูง สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจในเครือกว่า 200 แบรนด์ได้อย่างมหาศาล เพราะเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแรงในตัว สามารถต่อยอดสร้างมูลค่าไปยังธุรกิจอื่นได้


สื่อต่างๆกับการสร้างแบรนด์

"สื่อ"ที่เป็นตัวเลือกสำหรับใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์มีหลากหลายช่องทางในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น สื่อเก่า (Traditional Media) อย่าง ทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือ จะเป็นสื่อใหม่ (New Media) อย่าง เว็บไซต์ หรือ โทรศัพท์มือถือ

ในยุคที่อินเตอร์เน็ตเฟื่องฟู สื่อใหม่ ได้เข้ามาท้าทายสื่อเก่า เพราะ มีความเฉพาะเจาะจงส่วนบุคคล (Personalization) ที่มากกว่าสื่อเดิม การเข้าถึงตัวผู้บริโภค (Reach) ที่สูงกว่าเดิม โดยสังเกตได้จากเวลาที่คนใช้อินเตอร์เน็ต เริ่มสูงขึ้นจนแย่งเวลาในการดูทีวีให้ลดน้อยลง รวมไปถึงต้นทุนของสื่อใหม่ ที่ต่ำกว่าการใช้สื่อเก่าหลายเท่า จนทำให้สื่อใหม่ ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ ในแวดวงการสื่อสารการตลาดทั่วโลก

สื่อมือถือ เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจในการสร้างแบรนด์ เนื่องจาก

• มี Personalization สูง
• มีจำนวน Penetration ที่สูงกว่าสื่อเดิม (เช่น ในประเทศไทย มีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ มากกว่า 60 ล้านคน ซึ่งสูงกว่า ทีวีมาก เพราะ ทีวีโดยเฉลี่ย จะนับจำนวนเป็นบ้านหรือครัวเรือน และไม่แน่ว่า คนในบ้าน จะได้ดูทีวีทุกคน และไม่ใช่ว่าทุกคน จะดูช่องเดียวกัน)
• มีการเข้าถึง (Reach) ที่เข้าถึงตัวผู้บริโภคได้ตรงๆ

ด้วยเหตุผลดังกล่าว โทรศัพท์มือถือจึงเป็นสื่อที่มีศักยภาพสูงมากสื่อหนึ่ง จนถูกเรียกว่าเป็นหน้าจอที่ 3 (Third Screen) ต่อจากหน้าจอทีวี และหน้าจอคอมพิวเตอร์


ทำไมต้อง iPhone

แม้จำนวนโทรศัพท์มือถือจะมีอยู่จำนวนมาก แต่เมื่อกลับมาดูในโลกของความเป็นจริงแล้ว การโฆษณาโดยใช้มือถือเป็นสื่อนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

สาเหตุและปัจจัยหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิธีการที่นักการตลาดเลือกใช้ เช่น การส่ง SMS โฆษณาไปถึงตัวผู้บริโภคโดยตรง กลับกลายเป็นการสร้างความรำคาญให้กับผู้บริโภค และแม้ว่าจะมีการสร้างแคมเปญโฆษณาแบบสมัครใจ (Opt-in Campaign) เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาดังกล่าว แต่ก็ยังไม่ดึงดูดใจมากพอ และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ User Experience ที่ไม่ดี อันเนื่องมาจากขีดจำกัดทางด้านตัวเครื่องมือถือ ที่แตกต่างกันไปในแต่ละตลาด ไม่ว่าจะเป็นมือถือจอใหญ่ จอเล็ก ระบบเสียง ทำให้นักสื่อสารการตลาด ไม่สามารถนำเสนอประสบการณ์ที่ดี สู่หน้าจอมือถือของผู้ใช้ได้

ตลาดโฆษณาประชาสัมพันธ์บนมือถือที่ผ่านมา จึงเป็นได้แค่ตลาดที่มีศักยภาพสูง แต่ไม่สามารถดึงศักยภาพนั้นออกมาใช้งานได้จริง จนเมื่อ iPhone โทรศัพท์มือถือของ Apple ผู้ผลิต Hardware Computer และ เครื่อเล่น mp3 ชื่อดัง อย่าง iPod ได้เข้ามาปฏิวัติวงการโทรศัพท์มือถือ ทั้งในเรื่องของการออกแบบตัวเครื่อง การนำเสนอ User Interface ที่ใช้ง่าย น่าดึงดูดให้ใช้ และ User Experience ที่ผู้ใช้ทุกคนจะได้รับ เมื่อมีการใช้งาน ทำให้ iPhone กลายมาเป็นสื่อหนึ่งที่ทางบริษัทต่างๆให้ความสนใจในการใช้สร้างแบรนด์

จนอาจกล่าวได้ว่า iPhone พลิกอุตสาหกรรมมือถือ ให้กลับมาน่าสนใจ ในแง่ของการเป็นสื่อ เพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์และการสร้าง Brand Awareness ให้กับผู้ใช้ iPhone ทั่วโลก

ด้วยยอดขายถล่มทลายของ iPhone และ iPod Touch ในหลายๆประเทศ มากกว่า 37 ล้านเครื่อง รวมไปถึงจำนวน Application ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใช้บน iPhone ที่มีถึงกว่า 48,000 application ในระยะเวลาเพียง 11 เดือนโดยมียอดผู้ใช้ดาวน์โหลดรวมกัน กว่าพันล้านครั้ง ภายในเวลาเพียง 9 เดือน เรียกได้ว่าทำลายทุกสถิติของการพัฒนา application สำหรับโทรศัพท์มือถือ

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ iPhone ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด จากนักการตลาด และผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้สื่อโฆษณาทั่วโลก

ปรากฏการณ์นี้ทำให้บริษัทชั้นนำยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย ต่างก็เริ่มเห็นความสำคัญของ iPhone ว่าน่าจะสามารถ สร้างความแตกต่างไปจากสื่อดิจิตอลทั่วไป หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือด้วยกันเอง เนื่องจากตัวฟังก์ชั่นที่ล้ำหน้าของตัว iPhone ทำให้บริษัทต่างๆ สามารถนำเสนอประสบการณ์ที่ดีกว่าในการสร้างแบรนด์สินค้าให้กับลูกค้าได้ ผ่าน iPhone App

ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Branded Application” จึงเกิดขึ้นในที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดัง อย่าง Audi ที่ออกเกมขับรถอย่าง Audi A4 Driving Challenge และ เกมขับรถแข่ง อย่าง Truth in 24

หรือค่ายรถหรูอย่าง BMW ที่ไม่ยอมน้อยหน้า ส่งเกมขับรถสปอร์ตสุดสวยรุ่น Z4 กับเกม BMWZ4 Experience ออกมาประชัน

และล่าสุด ค่ายรถ Volkswagen ก็ออกเกมขับรถ Polo Challenge เช่นกัน

ทุกเกม นอกจากจะมีวัตถุประสงค์หลักในการใช้สร้างแบรนด์และเป็นการโฆษณาสินค้าของตน ยังมีเป้าหมายในการสร้างประสบการณ์ร่วมของลูกค้าไปกับการทดลองขับรถในเกม เพื่อเพิ่มความประทับใจ ให้มากกว่าแค่การได้เห็นโฆษณาและแบรนด์

นอกจากแบรนด์สินค้ารถยนต์ระดับบนแล้ว ยังมีแบรนด์สินค้าสำหรับ Consumer ทั่วไป ที่ใช้ iPhone ในการสร้างแบรนด์และเสริมภาพลักษณ์ของตน อย่างเช่น Kraft ผู้ผลิตอาหารชั้นนำของโลก


Kraft มี iPhone App ชื่อว่า “iFood Assistant” ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ iPhone เพราะมียอดดาวน์โหลดเป็นอันดับต้นๆ ทำหน้าที่เป็นคู่มือสอนทำอาหาร สูตรทำกับข้าวต่างๆ แถมยังบอกอีกด้วยว่าจะไปซื้อส่วนประกอบที่ใช้ทำอาหารนั้นๆ ได้จากร้านไหนบ้าง

และแน่นอนว่า ต้องเป็นร้านที่จำหน่ายสินค้าของ Kraft

นอกจากแบรนด์ที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอีกหลายๆบริษัทที่พยายามสร้างแบรนด์โดยใช้วิธีการทำ “Branded Application” บน iPhone ออกมาให้ผู้ใช้ iPhone ดาวน์โหลดไปลองใช้ เช่น รถยนต์สปอร์ต Porche , กางเกงยินส์และเสื้อผ้า GAP , ผลิตภัณฑ์ Nike ,เครื่องดื่ม Coke , เบียร์ Heineiken , ไฟแช็ค Zippo ,

หลายคนอาจจะสงสัยว่า การสร้างแบรนด์และการใช้ iPhone เป็นสื่อโฆษณาด้วยวิธีนี้ ได้ผลดีจริงเหรอ

จากข้อมูล app “A4 Driving Challenge” ของ Audi มีผู้ดาวน์โหลดไปเล่น ถึง 370,000 ครั้ง ในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ที่เปิดตัว


“Virtual Lighter” ของ Zippo ซึ่งเป็น App ที่ให้ผู้ใช้ ออกแบบดีไซน์ไฟแช็ค ตามแบบที่ตัวเองต้องการ เช่น การเลือกแบบ เลือกลายต่างๆของไฟแช็ค Zippo แล้วนำมาสลักชื่อเป็นชื่อของตัวเอง ก็มียอดการดาวน์โหลดกว่า 3 ล้านครั้ง ในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน จนขึ้นไปติดอันดับ Top Free ของ App Store ในหมวด Lifestyle อยู่นาน

แม้ว่า “Branded Application” ส่วนใหญ่ จะดาวน์โหลดได้ฟรี แต่สำหรับ “iFood Assistant” ของ Kraft นั้น ผู้ใช้กลับต้องเสียเงินในการซื้อ App นั้นมาใช้ในราคา $0.99 และที่น่าแปลกใจ คือ “iFood Assistant” กลายเป็น App ที่ขายดีมาก จนติดอันดับต้นๆของ App ขายดีจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่ามันจะเป็น App ที่มีโฆษณาของ Kraft อยู่มากมายก็ตาม

จากความนิยมอย่างสูง ในตัวของ “Branded Application” เหล่านี้ ทำให้นักการตลาดสรุปว่า ผู้บริโภคไม่ได้มองว่าวิธีการนี้เป็นการโฆษณาสินค้าหรือแบรนด์ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ เลือกที่จะหลีกเลี่ยงการได้รับโฆษณา ไม่ว่าจากทางใดก็ตาม โดยสังเกตได้จาก การที่ผู้บริโภค ยอมเสียเงินซื้อ App ของ Kraft ทั้งๆที่รู้ว่า มันคือ การโฆษณาแบบหนึ่ง (จ่ายเงินให้ Kraft แถมยังต้องมาดูโฆษณาของ Kraft อีก)

ทั้งหมดนี้ เป็นตัวอย่าง Campaign นี่น่าสนใจ ในการสร้างแบรนด์บนมือถือ iPhone ครับ ตอนนี้ สมรภูมิรบด้านโทรศัพท์มือถือ เริ่มร้อนระอุ เมื่อทั้งเจ้าตลาดมือถือรายใหญ่สุดอย่าง Nokia ก็ได้ออกบริการ Ovi ซึ่งเป็นตลาดซื้อขาย app บน platform ของ Nokia รวมไปถึง Blackberry ก็มีตลาดซื้อขาย app ของตัวเองชื่อ App World หรือแม้แต่ยักษ์ใหญ่ด้าน Search Engine อย่าง Google ก็ยังส่ง Android Market เพื่อมาเป็นคู่แข่งกับ Apple

สิ่งที่เกิดขึ้นยิ่งตอกย้ำแนวโน้มของการพัฒนา application บนมือถือ และ จะช่วยยกระดับการเป็นสื่อใหม่ของมือถือ ให้เต็มศักยภาพมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นสื่อที่มีอิทธิพลที่สุด เหนือกว่า traditional media เดิมก็ได้ครับ